1. การจะรู้ว่าตัวเองจะเดินไปทางใด ก็ต้องมีการวางแผนการเดินไว้ก่อน การใช้เงินก็เช่นเดียวกัน เราก็ต้องมีการวางแผนการเงินเอาไว้ เพื่อให้เราใช้เงินได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับตัวเรา เราสามารถวางแผนการเงินของตัวเราเองได้ดังนี้
- คำนวณหาเงินที่เหลือในแต่ละเดือนหรือแต่ละปี โดยคำนวณได้จาก รายได้ที่ได้รับทั้งหมดลบกับเงินออมที่เราต้องออมเป็นประจำ ลบค่าใช้จ่ายจำเป็น ลบหนี้สิน ก็จะเหลือเป็นเงินที่เหลือใช้ในแต่ละเดือน
- ทำรายรับ รายจ่ายอย่างละเอียด ว่าเรามีค่าใช้จ่ายในส่วนใดบ้าง เช่น ค่าโทรศัพท์อินเตอร์เนต ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าช้อปปิ้ง เป็นต้น ทำเป็นรายวันและรวมเป็นรายเดือนเพื่อให้เห็นภาพการไหลของเงินว่าเงินที่เราได้รับมานั้นมันไหลไปทางใด
- วางแผนเก็บเงินกับค่าใช้จ่ายที่เป็นจำนวนเงินก้อนที่ใหญ่ เช่น ค่าเล่าเรียนบุตร เงินที่ไว้ใช้ยามเกษียณ
- ตรวจสอบหนี้สินว่ามีจำนวนเท่าใด เปรียบเทียบระหว่างหนี้สินกับสินทรัพย์ที่เรามี ความสามารถในการผ่อนชำระ
- เมื่อเห็นว่าค่าใช้จ่ายมีมากกว่ารายได้ ก็อาจจะหางานทำเพิ่ม ทำงานเพิ่มเพื่อเพิ่มรายได้ให้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย
- ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น งดซื้อกาแฟ ชงกินเองแทน งดซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ งดทานข้าวนอกบ้าน ทำกับข้าวกินเอง
- ลดการใช้บัตรเครดิต ใช้แต่เงินสดเท่าที่นั้น ไม่มีเงินก็ไม่ซื้อ ไม่ก่อหนี้เพิ่ม
- ถ้ามีเงินเหลือก็เก็บออมไว้ นำไปใส่เป็นเงินออม หรือ เก็บไว้ในยามฉุกเฉิน
- ทำประกันสุขภาพ หรือ ประกันชีวิตเพื่อป้องกันการเสียเงินเป็นจำนวนมาก คุ้มครองหัวหน้าครอบครัวที่มีภาระหนี้สิน ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้าครอบครัว คนข้างหลังก็จะสามารถนำเงินไปปลดหนี้ได้ ไม่ทึ้งภาระไว้ให้กับคนข้างหลัง
- สำรวจหนี้ที่มีว่า หนี้ของเรานี้เป็นหนี้แบบใด เช่น หนี้ผ่อนบ้าน หนี้ผ่อนรถ หนี้นอกระบบ หนี้บัตรเครดิต เป็นต้น
- เมื่อสำรวจหนี้แล้วว่าเป็นหนี้อะไรก็ต้องแจกแจงหนี้นั้นว่ามียอด ณ ปัจจุบันอยู่เท่าใด อัตราดอกเบี้ยที่จ่าย จำนวนเงินที่จ่ายในแต่ละเดือน วันที่จ่าย และความถี่ในการจ่าย
- จัดลำดับของหนี้ที่ต้องการปลดหนี้ หนี้ที่ดอกเบี้ยสูง หนี้บัตรเครดิต หนี้นอกระบบ จะถูกนำมาปลดหนี้ก่อน
- สำรวจทรัพย์สินที่เรามี ว่าถ้าจะขายหรือแปลงเป็นเงินเพื่อปลดหนี้จะได้มูลค่าเท่าใด จดรายละเอียด และประเมินมูลค่า
- ขายสินทรัพย์เพื่อนำมาปลดหนี้ โดยเลือกปลดหนี้ตามที่เราได้จัดลำดับไว้
- ถ้าในกรณีที่ขายสินทรัพย์ก็แล้ว ทำทุกอย่างก็แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถปลดหนี้ได้หมด และเลือกวิธีเจรจา ต่อรองกับเจ้าหนี้
- อย่าหนีหนี้เป็นอันขาด