ในโอกาสที่ปีใหม่ 2556 ทางรัฐบาลได้มอบของขวัญให้กับคนที่เสียภาษีบุคคลธรรมดา
โดยมีมาตรการออกมาใหม่ มีการแก้ไขโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใน 3 เรื่องคือ
- การให้สามีและภรรยาสามารถแยกยื่นภาษีได้
- ปรับปรุงอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้มีขนาดลดลง
- ปรับปรุงเรื่องภาษีเงินได้ของคณะบุคคลและห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ใช่นิติบุคคล
เรื่องแรกนั้นมีผลบังคับใช้ทันทีเลย นั่นคือนับจากนี้เป็นต้นไป
สามีและภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันสามารถแยกยื่นภาษี โดยไม่จำเป็นต้องนำรายได้ของภรรยามาเข้าเป็นรายได้ของสามีเหมือนแต่ก่อน
ซึ่งทำให้โครงสร้างการเสียภาษีของบุคคลธรรมดามีการเปลี่ยนแปลง
ส่วนอีกสองเรื่องคือการปรับปรุงอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและปรับปรุงภาษีเงินได้ของคณะบุคคุลและห้างหุ้นส่วนสามัญนั้น
ยังเป็นเพียงแค่มติคณะรัฐมนตรี ยังไม่ได้ออกเป็นพระราชบัญญัติ
ดังนั้นจึงยังไม่มีการบังคับใช้ในตอนนี้ ต้องรอให้สภาอนุมัติก่อน แล้วออกเป็นกฏหมายเสียก่อนจึงจะมีผลต่อการบังคับใช้
ในสองเรื่องที่ยังรอสู่การพิจารณาของสภานั้น เรื่องแรกจะเป็นการปรับอัตราภาษีให้มีขนาดลดลง
กล่าวคือจากเดิม เป็นขั้นบันได 10, 20, 30, และ 37
เปลี่ยนเป็น
5, 10, 15, 20, 25, 30, และ 35 ซึ่งจะเห็นได้ว่าขั้นบันไดจะถี่ขึ้นและขั้นสูงสุดมีอัตราลดลง
ทำให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเสียภาษีให้จำนวนที่ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราภาษีเดิม
ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง การปรับปรุงภาษีเงินได้ของคณะบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ใช่นิติบุคคล
ตามมติคณะรัฐมนตรีนั้นจะเรียกเก็บภาษี 20% ของคณะบุคคลจากเงินได้ก่อนหักค่าใช้จ่าย
หมายความว่า ถ้าคณะบุคคลมีเงินได้ 1,000,000 บาท
ภาษีที่จะต้องเสียคือ 200,000 บาท (คำนวนได้จาก 1,000,000 x 20%) ดังนั้นการเสียภาษีของคณะบุคคลจึงแตกต่างจากเดิมเป็นอย่างมาก
ทำให้หลายคนต้องพิจารณาอย่างหนักแล้วว่าจะเอารายได้ใส่ในคณะบุคคลต่อไปไหม
เพราะไม่มีการหักค่าใช้จ่ายตามวงเล็บเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
ในส่วนของห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ใช่นิติบุคคลนั้น
ตามมติคณะรัฐมนตรีนั้นจะเรียกเรียกภาษีแบบเดิม อัตราเดิม แต่การหักค่าใช้จ่ายจะไม่ใช่แบบเหมาตามวงเล็บของเงินได้อีกต่อไปแล้ว
กล่าวคือ การหักค่าใช้จ่ายต้องหักแบบจ่ายจริง มีใบเสร็จ ซึ่งการหักค่าใช้จ่ายของห้างหุ้นสามัญที่ไม่ใช่นิติบุคคลนี้จะทำให้เหมือนกับการหักค่าใช้จ่ายของบริษัทนิติบุคคลที่ต้องมีหลักฐานของค่าใช้จ่าย
ดังนั้นการเสียภาษีของห้างหุ้นสามัญจะยุ่งยากกว่าเดิม เพราะจะต้องเก็บหลักฐาน
ใบเสร็จ ใบรับรองต่างๆ ทำให้หลายคนที่มีเงินได้เข้าห้างหุ้นส่วนสามัญนี้
ต้องมีความละเอียดรอบคอบ เก็บหลักฐานไว้ทั้งหมด เพื่อนำไปหักค่าใช้จ่าย
ถึงอย่างไรก็ดีการปรับการปรับปรุงอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและปรับปรุงภาษีเงินได้ของคณะบุคคลและห้างหุ้นส่วนสามัญนั้น
อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ และยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็คือรอการอนุมัติจากสภาและคำประกาศจากกรมสรรพกร
ซึ่งเมื่อมีการประกาศที่แน่นอนแล้ว การวางแผนภาษีก็จะสามารถทำได้
ในตอนต่อไปจะมาพูดถึงเรื่องการยื่นแยกของสามีภรรยา
ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง และยื่นอย่างไรจึงประหยัดภาษีมากที่สุด พบกันใหม่ตอนหน้านะคะ